Mingles Pub & Restaurant ช่วงเวลาแห่งการแชร์ กับอาหารจานใหญ่ ไซส์บิ๊ก

กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร ฯลฯ ของประเทศไทย
บางกอก
katip
Newbie
Newbie
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 29 พ.ค. 2013 12:29 pm

Mingles Pub & Restaurant ช่วงเวลาแห่งการแชร์ กับอาหารจานใหญ่ ไซส์บิ๊ก

โพสต์โดย katip » พุธ 29 พ.ค. 2013 2:23 pm

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เวลาไปกินอาหารกับเพื่อนเป็นกลุ่ม คนไทยส่วนใหญ่มักจะชอบสั่งอาหารที่ตัวเองชอบคนละอย่างสองอย่าง แล้วเอามาแชร์กับเพื่อน เพราะทำให้กินอาหารได้หลากหลายขึ้น แต่อาหารตามร้านทั่วไป ก็มักจะเป็นอาหารไซส์ปกติ คือขนาดเสิร์ฟสำหรับคนเดียว หรือสองคนเสียเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยมักจะเกิดปัญหาตามมาว่า ปริมาณของอาหารในแต่ละจานที่สั่งมาแชร์กันไม่เพียงพอต่อความต้องการของทุกคน


แต่ปัญหานี้จะหมดไป ถ้ามาที่ "Mingles Pub & Restaurant" ชั้น 2 โรงแรม Amari Atrium Bangkok เพราะที่นี่มีอาหารจานใหญ่ ไซส์บิ๊ก และเครื่องดื่มแบบเซ็ต ให้สั่งมาแชร์ด้วยกันได้ คราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าอาหารที่สั่งมาแชร์กันจะไม่พอกินอีกต่อไป แถมยังไม่ต้องแย่งกันอีกด้วย เพราะขนาดที่เสิร์ฟมา เพียงพอสำหรับทุกคน

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

Lets share it!

เริ่มจากเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่าง "Oversized Pizza" (ราคา 999 บาท ขนาดสำหรับ 4 คนขึ้นไป) พิซซ่าถาดใหญ่บึ้มขนาด 8 ชิ้น ที่อัดความอร่อยไว้ถึง 4 หน้าด้วยกัน คือ "กะเพราไก่", "Prosciutto", "Hawaiian" และ "มังสวิรัติ" ซึ่งแม้จะแบ่งออกมาได้ 8 ชิ้น แต่พิซซ่าก็ยังชิ้นใหญ่มาก คนกินน้อยอาจจะต้องแบ่งซอยให้ชิ้นเล็กลงอีกนิด แต่ถ้าชอบกินพิซซ่าชิ้นใหญ่ๆ อยู่แล้ว งานนี้ถูกใจแน่นอน

พิซซ่าอาจจะทำให้คอแห้ง ก็สั่งเครื่องดื่มสำหรับแชร์อย่าง "Funky Margarita" (ราคา 500 บาท) ที่มีเครื่องดื่มมาให้หนึ่งเหยือกใหญ่ รินแบ่งกันได้ตามจำนวนคนเลย แล้วเพลินกับมาร์การิต้ารสร้อนแรงด้วยผสมของเตกิล่า, น้ำมะนาว, น้ำเชื่อม และ Kaffir lime

รูปภาพ
"Oversized Pizza" พิซซ่าถาดใหญ่เท่าโต๊ะ

รูปภาพ
ชิ้นใหญ่เต็มคำ

รูปภาพ
"Funky Margarita"

หรือถ้าไม่ชอบพิซซ่า ก็ยังมีเมนู "Mega Sandwich" (ราคา 999 บาท) แซนด์วิชความยาว 2 ฟุตที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวและอัดแน่นของอร่อยๆ ไว้จนล้นทะลัก ทั้งซาลามี, แซลมอนรมควัน, ชีส, โบโลญญ่าไก่, มะเขือเทศ, แตงกวา, ไข่ต้ม, เบคอน และผักเรดโอ๊คกรีนโอ๊ค เสิร์ฟมาเป็นแซนวิชชิ้นยาวใหญ่ แล้วพนักงานจะมาตัดแบ่งให้ อยากได้ชิ้นขนาดไหน ก็สามารถบอกพนักงานได้ แล้วจะได้อร่อยกับขนมปังเนื้อหนา ไส้สดใหม่ให้รสชาติอร่อยแบบไม่ต้องปรุงรสด้วยอะไรให้มากความ

กินแซนด์วิชไปพลาง ก็สั่งเครื่องดื่มสำหรับแชร์กัน อย่าง "Asian Sangria" (ราคา 750 บาท) มาจิบไปพลาง จะยิ่งช่วยให้รสชาติของวัตถุดิบต่างๆ ในแซนด์วิชชัดเจนขึ้น เพราะเครื่องดื่มให้รสหวานนิดๆ จาก ไวน์แดง, บาคาร์ดี้ รัม, Gallino, น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายแดง

รูปภาพ
"Mega Sandwich"

รูปภาพ
"Asian Sangria"

นอกจากสองเมนูแชร์ ไบท์นี้ ยังมีเมนูสำหรับแชร์อีก 2 เมนู คือ ชุดสะเต๊ะรวมมิตร "Family Satay BBQ" (ราคา 799 บาท) และ ข้าวผัดสเปนสูตรลับคุณย่า "Grandmother's Paella Pot" (ราคา 1,299 บาท) กับเครื่องดื่มเหยือกโด "Pimm's LG" ที่มีส่วนผสมของชาเขียวกับ "Pimm's No.1" เหล้าที่มีเบสเป็นจิน

แต่ถ้าใครมาคนเดียว หรือมากันแค่คนสองคน ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีแต่อาหารจานใหญ่ๆ อย่างเดียวรึเปล่า เพราะที่ "Mingles Pub & Restaurant" ยังมีเมนูอาหารจานเดียวที่ขนาดเหมาะสำหรับไม่เกิน 2 คนด้วย


มาน้อยคน ก็อิ่มกำลังดีกับเมนูขนาดกลาง

ถ้าไปกันแค่สองสามคน ที่ "Mingles Pub & Restaurant" ก็มีเมนูขนาดกลางๆ ให้สั่งมาแชร์กันได้ เช่น สองเมนูซี่โครงหมูอย่าง "Pork Rib" (ราคา 380 บาท) เสิร์ฟคู่กับมันบด รสชาติจะออกหวานเค็มเข้มข้น กินกับมันบดจะได้รสชาติืที่กำลังดี และ "Korean Pork Rib" (ราคา 380 บาท) ซี่โครงหมูย่างเปื่อยนุ่มกับซอสรสเข้มข้น โรยด้วยงาขาวหอมๆ เสิร์ฟคู่กับข้าว และกิมจิรสจัด เผ็ด เปรี้ยว เค็ม ตัดรสกันได้ดีกับซี่โครงหมู


หรือถ้าชอบกินไส้กรอก กับเมนูมันฝรั่ง ลองไส้กรอกรสนุ่มๆ เนื้อนวลละมุนลิ้น "German Sausage Ring" (ราคา 290 บาท) ไส้กรอกเนื้อเนียนมาก สั่งมากินแกล้มกับ "Crispy Skin" (ราคา 170 บาท) มันฝรั่งอบทั้งเปลือก โรยด้วยเบคอนกรอบๆ แล้วซ้ำด้วย "Shepherd's pie" (ราคา 320 บาท) มันฝรั่งบดรองด้วยเนื้อแกะสับปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ช่วยให้กลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวของแกะกลมกล่อมขึ้น

รูปภาพ
"Pork Rib"

รูปภาพ
"Korean Pork Rib"

รูปภาพ
"German Sausage Ring"

รูปภาพ
"Crispy Skin"

รูปภาพ
"Shepherd's pie"

มาคนเดียว ก็สั่งแบบเบาๆ ได้

แต่ถ้าต้องการจะกินแค่เบาๆ แกล้มค็อกเทลเย็นๆ หรือมาคนเดียวไม่อยากจะกินเยอะเกินไป สั่งเมนูเบาๆ ที่ขนาดเสิร์ฟไม่เยอะมากมากินกับเครื่องดื่มสักแก้วสองแก้วก็ได้ เช่น "Mingles Tapas" (ราคา 280 บาท) ทาปาสคำเล็กคำน้อย ที่รวมของอร่อยไว้ในจานเดียว อาทิ เบคอน พาร์มาแฮม ซาลามี และหอยเเมลงภู่ เสิร์ฟคู่กับมะกอกดอง

หรือจะสั่งอาหารเสียบไม้คำเล็กๆ อย่าง "Mingles Skewer" (ราคา 240 บาท) ที่รวมไก่และหมูเสียบไม้รวมกับมะกอกดองและพริกระฆัง จิ้มกับน้ำจิ้มรสแซ่บ 3 แบบ แต่ถ้าชอบกินเนื้อแกะ ลองสั่ง "Kama Sudra Kabab" (ราคา 260 บาท) เนื้อแกะเคบับที่ใช้แกะสับคลุกเคล้ากับเครื่องเทศหอมๆ แล้วเอาไปเสียบไม้ย่าง เสิร์ฟมาในขนาดพอดีคำ กินคู่กับหอมแดง พริกระฆังสามสี และตอร์ติญ่า จานนี้ความเป็นเนื้อแกะที่ผสมรมกับกลิ่นเครื่องเทศจะให้กลิ่นอายของอาหรับเล็กน้อย

จากนั้นสั่ง "Chicken Wing" (ราคา 200 บาท) ไก่ปีกบนทอดกรอบๆ เหลืองอร่าม จิ้มกับบาร์บีคิวซอสรสเข้มข้น เป็นเมนูกินเพลินๆ เรียกน้ำย่อย แล้วต่อด้วย "Tomato Mozzarella Wrap" (ราคา 190 บาท) มอซซาเรลล่าชีสและมะเขือเทศสดห่อด้วยแป้งตอร์ติญ่า เสิร์ฟพร้อมผักสลัด เมนูนี้รสชาติเบาๆ หากใครไม่ชอบอาหารฝรั่งรสจัดๆ เข้มๆ ก็สามารถสั่งเมนูนี้มากินได้

รูปภาพ
"Mingles Tapas"

รูปภาพ
"Mingles Skewer"

รูปภาพ
"Kama Sudra Kabab"

รูปภาพ
"Chicken Wing"

รูปภาพ

เครื่องดื่มสุดจี๊ด

นอกจากจะมีเครื่องดื่มเหยือกใหญ่สำหรัแชร์กับเพื่อนแล้ว "Mingles Pub & Restaurant" ยังมีเครื่องดื่มค็อกเทลสีสดๆ รสชาติน่าค้นหาให้ลิ้มลองอีกหลายแก้วเลยทีเดียวเช่น"Pina Colada" ปิญา โกลาดา เครื่องดื่มที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่กลางหมู่เกาะทะเลใต้ ด้วยรสชาติของน้ำกะทิเข้มข้นหวานมันและน้ำสับปะรดเปรี้ยวอมหวาน แล้วเพิ่มความร้อนแรงด้วยบาคาร์ดี รัม กับมาลิบู

ตามด้วย "Grass Chopper" เครื่องดื่มสีเขียวมินต์รสแปลก ที่สร้างความฉงนเมื่อแรกสัมผัส ทำให้อยากรู้ว่ามีอะไรเป็นส่วนผสมบ้าง แล้วก็ได้รู้ว่ารสชาตินุ่มละมุนคล้ายครีมนม คือ ส่วนผสมระหว่าง "Creme de Menthe Green" เหล้ารสมินต์ และ "White Creme de Cacao" เหล้าที่ให้รสโกโก้และกลิ่นวานิลลาหอมละมุน ทำให้เครื่องดื่มแก้วนี้มีทั้งรสชาติซ่าๆ ของมินต์และรสนุ่มละมุนเหมือนครีมนมผสมกัน

ส่วนคนที่ชอบรสเปรี้ยวอมหวานแบบน้ำผลไม้ ก็ต้องสั่ง "Planter Punch" พันช์สีแดงสดใส ที่ให้ความสดชื่นของน้ำผลไม้นานาชนิดผสมกัน ทั้งน้ำสับปะรด น้ำส้ม และน้ำมะนาว แล้วเพิ่มความร้อนแรงด้วย "Dark Rum" และ "Grenadine Red"

แต่ถ้าชอบรสชาติซ่าๆ แบบน้ำอัดลม "Long Island" ก็เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะที่สุด เพราะใส่โค้กลงไปเป็นส่วนผมหลักด้วย ให้รสชาติหวานซ่าชื่นใจแบบโค้ก บีบมะนาวเพิ่มรสชาติอีกหน่อย แล้วเพิ่มดีกรีความร้อนแรงด้วยเตกีล่า จิน รัม วอดก้า และทริปเปิ้ล เซค

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่เป็นที่คุ้นเคยของคอค็อกเทลกันดี อย่าง "Blue Kamikaze" เครื่องดื่มสีฟ้าสวยรสเปรี้ยวอมหวานแอบขมนิดๆ กำลังดี ด้วยผสมของ วอดก้า และ "Blue Curacao"

รูปภาพ
"Pina Colada"

รูปภาพ
"Grass Chopper"

รูปภาพ
"Planter Punch"

รูปภาพ
"Long Island"

รูปภาพ
"Blue Kamikaze"


ที่สำคัญถ้าหนุ่มคนไหนชอบเชียร์บอล ไปที่ร้านนี้จะต้องชอบใจ เพราะตรงกลางร้าน มีจอทีวีขนาดใหญ่เปิดให้ดูฟุตบอลกันได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าใครไปกับแฟน ก็มีมุมติดหน้าต่างให้เลือกนั่งหลบมุมนิดๆ หรือจะเลือกไปนั่งสูดอากาศยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ที่โซนเทอเรสด้านนอกก็ได้

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
โซน Open Air


ปาแก้วให้แตกกระจาย!!

นอกจากจะมีทีเด็ดคือทีวีที่ฉายบอลให้ดูกันจนหนำใจแล้ว ที่ "Mingles Pub & Restaurant" ยังมีกิมมิคสนุกๆ อีกอย่างที่ถือเป็น "ที่แรก" และ"ที่เดียว" ในเมืองไทยก็ว่าได้ที่มี "Vodka Bar" ให้ลูกค้าที่ดื่มวอดก้าหมดแล้ว สามารถปาแก้ววอดก้าเข้าไปในช่องด้านหลังบาร์ได้ ซึ่งที่มาที่ไปของการปาแก้ววอดก้า เกิดขึ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อทหารรัสเซียที่เป็นต้นกำเนิดของธรรมเนียมปาแก้ววอดก้านี้ กลัวจะโดนศัตรูแอบมาวางยาลงในแก้ววอดก้าของตัวเอง เลยต้องปาแก้ววอดก้าทิ้งทุกครั้งที่ต้องดื่มวอดก้าเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายในฤดูหนาว

โซน"วอดก้า บาร์" จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป และมีวอดก้าให้เลือกดื่มมากถึง 12 รสชาติ คือ Lime, Apple, Strawberry, Peach, Melon, Lemon, Cherry, Cranberry, Mint, Pepper, Lychee, Chili (แก้วละ 210 บาท ไม่รวม vat)

รูปภาพ

อิ่มอร่อยได้หลายฟังค์ชั่น แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำอีกด้วย


Mingles Pub & Restaurant Amari Atrium Bangkok

ที่อยู่ : 1880 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ , ห้วยขวาง , กรุงเทพมหานคร 10110

โทร : 02-718-2000-1

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 46 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน