ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว การเลือกพันธุ์ต่างๆ วิธีปลูก ดูแลความสะอาด

รวมความรู้ ทิป และเทคนิคทั่วไป
Sunflower_Man
Jr. Member
Jr. Member
โพสต์: 78
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 06 มิ.ย. 2012 3:45 pm

ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว การเลือกพันธุ์ต่างๆ วิธีปลูก ดูแลความสะอาด

โพสต์โดย Sunflower_Man » เสาร์ 14 ก.ค. 2012 6:06 pm

ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว การเลือกพันธุ์ต่างๆ วิธีปลูก ดูแลความสะอาด
ข้าวโพดข้าวเหนียว.jpg
ข้าวโพดข้าวเหนียว

การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

1 แหล่งปลูก

1.1. สภาพพื้นที่
1.1.1 ปลูกได้ทุกภาคของประเทศ ที่ใกล้แหล่งน้ำสะอาด
1.1.2 พื้นที่ราบและสม่ำเสมอ มีความลาดเอียงไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์
1.1.3 ไม่มีน้ำท่วมขัง
1.1.4 ห่างไกลจากแหล่งมลพิษ
1.1.5 การคมนาคมสะดวก สามารถนำผลผลิตออกสู่ตลาดได้รวดเร็ว
1.2. ลักษณะดิน
1.2.1 ดินร่วน ดินร่วนเหนียวปนทราย หรือดินร่วนปนทราย
1.2.2 ความอุดมสมบูรณ์สูง มีอินทรียวัตถุสูงกว่า 1.5 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์มากกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ไม่น้อยกว่า 40 ส่วนในล้านส่วน
1.2.3 การระบายน้ำและถ่ายเทอากาศดี
1.2.4 ระดับหน้าดินลึก 25-30 เซนติเมตร
1.2.5 ค่าความเป็นกรดด่างระหว่าง 5.5-6.8
1.3. สภาพภูมิอากาศ
1.3.1 อุณหภุมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต 24-35 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส อาจจะมีปัญหาในการผสมเกสร ทำให้การติดเมล็ดไม่ดีเท่าที่ควร
1.3.2 ปริมาณน้ำฝนกระจายสม่ำเสมอ 1,000-1,200 มิลลิเมตรต่อปี
1.3.3 มีแสงแดดจัด
1.4. แหล่งน้ำ
1.4.1 มีน้ำเพียงพอสำหรับใช้เมื่อจำเป็น
1.4.2 ต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ที่มีพิษปนเปื้อน
1.5. วางแผนการผลิต
1.5.1 ข้าวโพดข้าวเหนียวเป็นพืชบริโภคสดสามารถปลูกได้ตลอดปี จำเป็นต้องวางแผนการผลิตเพื่อรักษาคุณภาพ โดยผลิตให้พอกับความต้องการของตลาด

2.พันธุ์
สำหรับพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวที่ได้มีการปรับปรุงพันธุ์ทั้งโดยหน่วยราชการและบริษัทเอกชนและได้ปล่อยพันธุ์ให้เกษตรกรใช้แล้วมีดังนี้ คือ

2.1. พันธุ์รัชตะ เป็นพันธุ์ผสมเปิด ที่ปรับปรุงพันธุ์โดยศูนย์วิจัยข้าวโพดข้าวฟ่างแห่งชาติ สถาบันอินทรีย์จันทรสถิตย์ เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

2.2. พันธุ์สำลีอิสาน เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์ใหม่ที่ปล่อยพันธุ์ในปี 2542 เป็นพันธุ์แรกที่ปรับปรุงโดยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้มาจากการผสมข้ามชนิดระหว่างข้าวโพดข้าวเหนียวและข้าวโพดซูเปอร์สวิท ที่มียีนด้อยควบคุมแตกต่างกันคือเป็น wxsx (waxy gene) ในข้าวโพดข้าวเหนียวและ sh2 sh2 (shrunken-2 gene) ในข้าวโพดหวานตามลำดับ แล้วรวมยีนทั้งคู่ให้มาแสดงออกในฝักเดียวกัน ทำให้ได้พันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีรสชาติเหนียวปนหวานในฝักเดียวกัน โดยเมล็ดส่วนใหญ่ประมาณ 3 ส่วน เป็นเมล็ดข้าวโพดข้าวเหนียว จึงมีรสเหนียวนุ่มและเมล็ดอีกหนึ่งส่วนเป็นเมล็ดของข้าวโพดหวานทำให้มีรสหวาน

2.3. พันธุ์แวกซ์-22 เป็นพันธุ์ลูกผสมชั่วแรก (F1-hybrid) ที่ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทซินเจนทาซีดส์จำกัด
2.4. พันธุ์บิ๊กไวท์ เป็นพันธุ์ลูกผสมชั่วคราว (F1-hybrid) ที่ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทอีสเวส ซีดส์ จำกัด
2.5. พันธุ์ท๊อปไวท์ เป็นพันธุ์ลูกผสมชั่วแรก (F1-hybrid)ที่ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทเจียไต๋จำกัด
2.6. พันธุ์ข้าวเหนียวสลับสี เป็นพันธุ์ลูกผสมชั่วแรก (F1-hybrid) พันธุ์ใหม่ล่าสุดที่ปรับปรุงพันธุ์โดยคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่จะปล่อยพันธุ์อย่างเป็นทางการในปี 2547 นี้ เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมพันธุ์แรกที่มีเมล็ดสองสีคือสีขาวและสีเหลืองสลับกันอยู่ในฝักเดียวกัน ปรับปรุงมาจากการผสมข้ามชนิดระหว่างข้าวโพดข้าวเหนียวและข้าวโพดซูเปอร์สวิท ที่มียีนต้อยควบคุมแตกต่างกันคือเป็น wxwx (waxy gene) ในข้าวโพดข้าวเหนียวและ sh2 sh2 (shrunken-2 gene) ในข้าวโพดหวานตามลำดับ แล้วรวมยีนทั้งสองคู่ให้มาแสดงออกในฝักเดียวกัน ทำให้ได้พันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีรสชาติเหนียวปนหวานในฝักเดียวกัน โดยเมล็ดส่วนใหญ่ประมาณ 3 ส่วน เป็นเมล็ดข้าวโพดข้าวเหนียว จึงมีรสเหนียวนุ่มและเมล็ดอีกหนึ่งส่วนเป็นเมล็ดของข้าวโพดหวานทำให้มีรสหวาน

Sunflower_Man
Jr. Member
Jr. Member
โพสต์: 78
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 06 มิ.ย. 2012 3:45 pm

Re: ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว การเลือกพันธุ์ต่างๆ วิธีปลูก ดูแลความสะอาด

โพสต์โดย Sunflower_Man » เสาร์ 14 ก.ค. 2012 6:06 pm

3 การปลูก

3.1. ฤดูปลูก
3.1.1 ปลูกได้ตลอดทั้งปี ถ้าทีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับใช้เมื่อจำเป็น
3.1.2 ช่วงปลูกที่ให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี ควรอยู่ในฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม หรือต้นฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม

3.2. การเตรียมดิน
3.2.1 ปลูกบนพื้นที่ราบ ไถด้วยผาลสาม 1 ครั้ง ลึก 20-30 เซนติเมตร ตากดิน 7-10 วัน พรวนด้วยผานเจ็ด 1 ครั้ง แล้วยกร่องปลูกสูง 25-30 เซนติเมตร ถ้าปลูกแถวเดียว ยกร่องให้มีระยะระหว่างร่อง 75 เซนติเมตร ถ้าปลูกเป็นแถวคู่ ยกร่องให้มีระยะระหว่างร่อง 120 เซนติเมตร
3.2.2 ปลูกบนร่องสวน เป็นการปลูกบนร่องสวนกว้าง 4-5 เมตร ตามความยาวของพื้นที่ โดยใช้จอบหรือรถไถเดินตามเปิดหน้าดินลึก 15-20 เซนติเมตร ตากดิน 7-10 วัน ย่อยดินด้วยแรงงาน
3.2.3 ปรับระดับดินให้สม่ำเสมอแล้วคราดเก็บเศษซาก ราก เหง้า หัวและไหลของวัชพืชข้ามปีออก
3.2.4 วิเคราะห์ดินก่อนปลูก
1) ถ้าดินมีค่าความเป็นกรดด่างต่ำกว่า 5.5 ให้หว่านปูนขาว อัตรา 100-200 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วพรวนกลบ
2) ถ้าดินมีอินทรียวัตถุต่ำกว่า 1.5 ก่อนพรวนดิน ให้ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้ว อัตรา 500-1,000 กิโลกรัมต่อไร่ หรือ หว่านพืชบำรุงดิน เช่น ถั่วเขียว อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วไถกลบในระยะติดฝักหรือหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตของพืชบำรุงดิน

3.3. วิธีการปลูก

ก่อนปลูกทุกครั้ง ต้องคลุมเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดโรคราน้ำค้าง
3.3.1 ปลูกบนพื้นที่ราบ
1) เมล็ดพันธุ์ที่มีความงอกสูงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ให้หยอด 1 เมล็ดต่อหลุม ใช้เมล็ดพันธุ์ 1.0-1.5 กิโลกรัมต่อไร่ ถ้าเมล็ดพันธุ์มีความงอกต่ำกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ควรหนอดเมล็ด 1-2 เมล็ดต่อหลุม ใช้เมล็ดพันธุ์ 1.5-2.0 กิโลกรัมต่อไร่
2) อัตราปลูกที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคฝักสดประมาณ 8,500-11,000 ต้นต่อไร่
3) ถ้าปลูกเป็นแถวเดี่ยว ใช้ระยะระหว่างหลุม 25 เซนติเมตร ถ้าปลูกเป็นแถวคู่ ให้ปลูกข้างสันร่องแบบสลับฟันปลา ใช้ระยะระหว่างหลุม 25-30 เซนติเมตร
4) เมื่อข้าวโพดข้าวเหนียวมีอายุประมาณ 14 วัน ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 ต้น
3.3.2 ปลูกแบบร่องสวน
1) ระยะปลูก 50X50 เซนติเมตร ปลูกลึก 3-5 เซนติเมตร หยอดเมล็ดจำนวน 2-3 เมล็ดต่อหลุม แล้วกลบด้วยดิน
2) เมื่อข้าวโพดข้าวเหนียว อายุประมาณ 14 วัน ถอนแยกให้เหลือ 2 ต้นต่อหลุม จำนวน 6,500-8,500 ต้นต่อไร่

3.4. การดูแลรักษา

3.4.1 การให้ปุ๋ย
1) ถ้าดินมีอินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมต่ำกว่า ตามที่ระบุในข้อ 1.2 ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 สำหรับดินร่วน หรือดินเหนียวปนทราย และสูตร 15-15-15 สำหรับดินร่วนปนทราย อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ รองก้นร่องพร้อมปลูก
2) เมื่อข้าวโพดข้าวเหนียวอายุ 20 วัน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 21-0-0 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างต้นหรือข้างแถว แล้วพรวนกลบ
3) ในกรณีที่มีการระบายน้ำดี แต่ข้าวโพดข้าวเหนียวมีลักษณะต้นเตี้ยและใบเหลือง ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อข้าวโพดข้าวเหนียวอายุ 40-45 วัน

3.4.2 การให้น้ำ
- ให้น้ำบนพื้นที่ราบ สามารถให้น้ำทั้งแบบตามร่อง หรือแบบพ่นฝอย แต่การให้น้ำแบบพ่นฝอยจะประหยัดกว่าการให้น้ำตามร่อง
(1) การให้น้ำแบบพ่นฝอย ควรให้ทุก 7-10 วัน ตลอดฤดูปลูก
(2) การให้น้ำตามร่อง ควรให้น้ำสูงถึงระดับเศษ 3 ส่วน 4 ของร่อง เพื่อให้เมล็ดงอกสม่ำเสมอ หลังจากนั้นให้น้ำทุก 3-5 วัน สำหรับดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย หรือ 7-10 วัน สำหรับดินร่วนเหนียวปนทรายไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังในแปลงนานเกิน 24 ชั่วโมง เพราะข้าวโพดข้าวเหนียวจะชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงหรืออาจตาย
- ให้น้ำบนร่องสวน ให้น้ำโดยการตักน้ำรดหรือใช้เครื่องสูบน้ำวางในเรือขนาดเล็กสูบน้ำในร่อง
- ควรให้น้ำทันทีหลังปลูกและหลังให้ปุ๋ยทุกครั้ง
- ถ้าใบข้าวโพดข้าวเหนียวเหี่ยวหรือม้วน ในช่วงเช้าหรือเย็น แสดงว่าขาดน้ำ ต้องให้น้ำทันที ควรระวังอย่าให้ขาดน้ำในข่วงผสมเกสรและติดเมล็ด เพราะจะทำให้ผลผลิตลดลงมาก

3.5. สุขลักษณะและความสะอาด
3.5.1 ควรเก็บวัชพืช โดยเฉพาะที่เป็นโรค เผาทำลายนอกแปลงปลูก อุปกรณ์ ได้แก่ มีด จอบ เครื่องพ่นสารกำจัดศัตรูพืช และภาชนะที่ใช้เก็บผลผลิต
3.5.2 หลังใช้งานแล้วต้องทำความสะอาด หากเกิดการชำรุดควรทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
3.5.3 เก็บสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีไว้ในที่ปลอดภัย และปิดกุญแจโรงเก็บ

3.6. การเก็บเกี่ยว
3.6.1 ระยะเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม
1) เก็บเกี่ยว 18-20 วัน หลังออกไหม 50 เปอร์เซ็นต์
2) สังเกตจากสีของไหมจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม
3) เมื่อใช้มือบีบส่วนปลายฝักจะยุบตัวได้ง่าย
4) เมื่อฉีกเปลือกข้าวโพดฝักบนสุด เมล็ดจะมีสีเหลืองอ่อน ถ้าใช้เล็บกดที่เมล็ดปลายฝักจะมี น้ำนมไหลออกมา แสดงว่าอีกสองวันจะต้องเก็บเกี่ยว
3.6.2 วิธีการเก็บเกี่ยว
ใช้มือหักฝักสดให้ถึงบริเวณก้านฝักที่ติดลำต้น

3.7 วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
3.7.1 การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
1) หลังเก็บเกี่ยวให้รีบนำฝักข้าวโพดข้าวเหนียวเข้าในที่ร่ม เพื่อไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง
2) สถานที่เก็บชั่วคราว ควรมีการถ่ายเทอากาศดี ห่างไกลจากสิ่งปฏิกูล สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี และมูลสัตว์ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
3) ไม่ควรกองสุมฝักข้าวโพดข้าวเหนียวสูงเกินไป ควรมีการถ่ายเทอากาศภายในกองบรรจุ เพื่อขนส่ง กระสอบต้องผ่านการล้างทำความสะอาด ปากกระสอบตัดแต่งให้เรียบร้อยก่อนใช้บรรจุข้าวโพด
3.7.2 การขนส่ง
1) เตรียมการเรื่องผู้รับซื้อและยานพาหนะในการขนส่งไว้ล่วงหน้าก่อนเก็บเกี่ยว
2) รถบรรทุกต้องสะอาดและเหมาะสมกับปริมาณข้าวโพดข้าวเหนียว ไม่ควรเป็นรถที่ใช้บรรทุกดิน สัตว์ มูลสัตว์ สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช หรือปุ๋ยเคมี เพราะอาจมีการปนเปื้อน ยกเว้นจะมีการทำความสะอาด ที่เหมาะสมก่อนนำมาบรรทุก
3) ควรขนส่งฝักข้าวโพดข้าวเหนียวให้ถึงปลายทางภายใน 24 ชั่วโมง หลังการเก็บเกี่ยว และถ้าเป็นไปได้ควรขนส่งในเวลากลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อนในเวลากลางคืน


ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 29 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน